Menu
คะแนน

1. ทำไมเบเกอรี่ผลไม้ จึงสามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างกำไรได้

- เพราะเบเกอรี่ที่มีผลไม้เป็นส่วนประกอบ มักสื่อถึงความพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นผลไม้สดที่ให้รสชาติและสีสันสดใหม่ หรือผลไม้แปรรูปที่สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ช่วยทำให้เบเกอรี่ดูพิเศษ น่าทาน และแตกต่างจากขนมทั่วไป เมื่อเบเกอรี่มีความน่าสนใจ ก็ยิ่งดึงดูดลูกค้าได้ง่าย และทำให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถตั้งราคาขายได้สูงขึ้น

- เพราะตอบโจทย์ลูกค้าสายสุขภาพ ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น ลูกค้าจำนวนไม่น้อยมองหาเบเกอรี่ที่ให้ทั้งความอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งเบเกอรี่ผลไม้ สามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว เพราะผลไม้ไม่เพียงช่วยเพิ่มรสชาติ แต่ยังเสริมในเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

- เพราะผลไม้ตามฤดูกาลหาง่าย ต้นทุนไม่สูง เนื่องจากประเทศไทยมีผลไม้ตามฤดูกาลหมุนเวียนตลอดทั้งปี พ่อค้าแม่ค้าจึงสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำเบเกอรี่ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาวัตถุดิบ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังสามารถปรับเพิ่มราคาขายได้ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่สนใจ สามารถศึกษาเกี่ยวกับ เทคนิคการตั้งราคาเบเกอรี่ เพิ่มเติมได้

- เพราะผลไม้ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้เมนูเบเกอรี่ โดยพ่อค้าแม่ค้าสามารถนำผลไม้มาผสมกับเนื้อขนม ทำเป็นไส้ หรือนำมาตกแต่งหน้าขนมเพื่อเพิ่มความสวยงามน่าทานได้ ซึ่งจะช่วยทำให้เบเกอรี่ของเรามีความน่าสนใจมากขึ้น

2. เลือกผลไม้ยังไงให้เหมาะกับเบเกอรี่

การเลือกผลไม้ให้เหมาะกับเบเกอรี่ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้รสชาติกลมกล่อม ลงตัว และสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ โดยมีเทคนิคง่าย ๆ คือ

- เลือกผลไม้ตามรสชาติ

การเลือกรสชาติของผลไม้ให้เหมาะกับประเภทของเบเกอรี่ จะช่วยให้รสชาติออกมากลมกล่อมและลงตัวมากขึ้น เช่น ผลไม้รสหวานอย่าง กล้วย หรือ มะม่วง เหมาะสำหรับทำขนมปังและมัฟฟิน เพราะช่วยเพิ่มความหวานตามธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาลมากเกินไป ในขณะที่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่าง ส้ม หรือ เบอร์รี เหมาะกับเมนูเค้กและทาร์ต เนื่องจากรสเปรี้ยวจะช่วยตัดกับความหวานของเบเกอรี่ ทำให้ได้รสชาติอร่อยลงตัว

- เลือกผลไม้ให้เหมาะกับวิธีการทำเบเกอรี่ 

เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญไม่แพ้เรื่องรสชาติ หากเป็นเมนูที่ต้องอบด้วยอุณหภูมิสูงและใช้เวลานาน ควรเลือกผลไม้ที่ทนความร้อน เนื้อสัมผัสไม่เสีย และคงรสชาติได้ดี เช่น กล้วย เพราะเมื่อนำไปอบแล้วยังคงให้ความหวานและเนื้อนุ่มนวลอย่างสม่ำเสมอ หรือหากเป็นเบเกอรี่ที่ต้องการให้ผลไม้คงรูปสวยงามหลังการอบ ควรเลือกใช้ผลไม้ที่มีเนื้อแน่นและไม่เละง่าย เช่น แอปเปิล เป็นต้น

- เลือกผลไม้ตามฤดูกาล

เนื่องจากผลไม้ตามฤดูกาลหาซื้อได้ง่าย ต้นทุนไม่สูง และยังได้รสชาติที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ ด้วย โดยแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้าเบเกอรี่เลือกซื้อผลไม้จากแหล่งขายส่ง เช่น ตลาดผลไม้ หรือซื้อจากเกษตรกรโดยตรง จะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น

3. เทคนิคการนำผลไม้มาใช้ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้เบเกอรี่

- เทคนิคการใช้ผลไม้สดในเบเกอรี่

ข้อดีของการนำผลไม้สดมาเป็นวัตถุดิบเบเกอรี่คือ ได้รสชาติที่สดใหม่ มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับทำเป็นไส้ขนม หรือใช้ตกแต่งหน้าเบเกอรี่ โดยใช้ควบคู่กับ ฟิลลิ่ง ที่มีส่วนผสมของผลไม้แท้ จะช่วยให้เบเกอรี่ดูสวยงาม มีความพรีเมียม น่าทาน และรสชาติอร่อยคงที่ โดยแนะนำให้เลือกใช้ผลไม้สดตามฤดูกาล เพื่อควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงเกินไป

- เทคนิคการใช้ผลไม้อบแห้งในเบเกอรี่

ผลไม้อบแห้ง เช่น กล้วย ส้ม มะม่วง หรือ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เป็นวัตถุดิบที่เก็บได้นาน ไม่เสียง่าย และสะดวกต่อการนำมาใช้ทำเบเกอรี่ โดยการผสมในแป้งขนมหรือใช้เป็นท็อปปิงบนคุกกี้ ขนมปัง หรือมัฟฟิน ไม่เพียงช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย แต่ยังทำให้เบเกอรี่ดูพรีเมียมขึ้นอีกด้วย 

- เทคนิคการใช้ผลไม้แช่แข็งในเบเกอรี่

ผลไม้แช่แข็ง เช่น มะม่วง สับปะรด กีวี สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี หรือ เชอร์รี มีจุดเด่นคือรสชาติใกล้เคียงกับผลไม้สด คงสีสันและความน่าทาน ซึ่งสามารถเลือกใช้ผลไม้แช่แข็งที่เป็นผลไม้นอกฤดูกาลได้ เพราะมีขายตลอดทั้งปี จึงเหมาะจะนำมาใช้ทำเป็นไส้ขนม ผสมในเนื้อเบเกอรี่ หรือใช้ตกแต่งหน้าให้ดูสวยงาม 

- เทคนิคการใช้ผลไม้บดหรือผลไม้ปั่นในเบเกอรี่

โดยการนำผลไม้สุก เช่น กล้วย ส้ม หรือ ฟักทอง มาบดหรือปั่นให้ละเอียด อาจเติมน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อปรับรสชาติให้กลมกล่อม จากนั้นนำมาผสมลงในแป้ง จะช่วยให้สีและรสชาติของผลไม้กระจายทั่วเนื้อขนม เหมาะสำหรับเบเกอรี่ที่ต้องการเนื้อสัมผัสนุ่มละมุน เช่น เค้กกล้วยหอม เค้กโรลผลไม้ เป็นต้น

- เทคนิคการลวกผลไม้เพื่อใช้ในเบเกอรี่

โดยการนำผลไม้ เช่น สับปะรด แอปเปิล หรือ บลูเบอร์รี มาลวกในน้ำร้อน ประมาณ 30–60 วินาที ก่อนนำมาใช้ทำเบเกอรี่ เทคนิคนี้จะช่วยคงสีสันและเนื้อสัมผัสของผลไม้ให้สวยงาม ไม่เละง่าย จึงเหมาะสำหรับเบเกอรี่ที่ต้องการใช้ผลไม้คงรูปเป็นส่วนประกอบ เช่น ทาร์ตผลไม้ พายผลไม้ เป็นต้น 

4. ไอเดียเบเกอรี่ผลไม้ ขายง่าย กำไรปัง

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของผลไม้ ไม่เพียงเพิ่มรสชาติและความน่าทาน แต่ยังสร้างโอกาสในการอัปกำไรด้วย สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังมองหาเบเกอรี่ผลไม้ที่ทำได้ง่าย ขายได้จริง สามารถนำสูตรเหล่านี้ไปปรับใช้ได้เลย

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของ กล้วย เช่น พายกล้วยไข่เชื่อม เค้กกล้วยหอม ทาร์ตคัสตาร์ดไข่กล้วยหอม ขนมปังกล้วยหอมลูกเกด

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของ ส้ม เช่น ทาร์ตคัสตาร์ดเสาวรสส้มเขียวหวาน เลเยอร์เค้กส้ม

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของ มะม่วง เช่น แพนเค้กมะม่วงครีมวานิลลา พิซซ่าหน้ามะม่วงคัสตาร์ดใบเตย พัฟพิซซ่าอกไก่มะม่วงน้ำดอกไม้

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของ ฟักทอง เช่น ขนมปังฟักทองงาดำ แซนวิชไส้ซอสพิซซ่าฟักทองผัดไข่ แพนเค้กหน้าฟักทองคัสตาร์ดลาวา

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของ สตรอว์เบอร์รี เช่น แพนเค้กผลไม้เสียบไม้ เลเยอร์แพนเค้กสตรอว์เบอร์รี เค้กลาวา ไส้วานิลลา-สตรอว์เบอร์รี

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของ บลูเบอร์รี เช่น เค้กโรลบลูเบอร์รีครีมโยเกิร์ต บลูเบอร์รีครัมเบิ้ลบาร์ พัฟบลูเบอร์รี

เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของ มะพร้าว เช่น ทาร์ตทองหยอดครีมมะพร้าว บราวนี่มะพร้าว

เบเกอรี่ที่ใช้ผลไม้หลากหลายประเภท เช่น เครปโยเกิร์ตผลไม้ คริสต์มาสฟรุตเค้ก

พ่อค้าแม่ค้าเบเกอรี่ที่ได้เทคนิคและไอเดียดี ๆ แล้ว อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การบริหารต้นทุนเพื่อเพิ่มกำไร” สามารถศึกษาได้ผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ที่ช่องทาง

https://www.unileverfoodsolutions.co.th/th/chef-training-academy/academy/chef-course/food-costing-restaurant-profit.html

การนำผลไม้สดหรือผลไม้แปรรูปมาเป็นส่วนประกอบในเบเกอรี่ ไม่เพียงแต่ทำให้ขนมของเราดูน่าทานขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่า ทำให้ขายในราคาที่สูงขึ้นได้ โดยต้นทุนไม่บานปลาย แถมยังเพิ่มความหลากหลายให้เมนูด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่พ่อค้าแม่ค้าไม่ควรพลาด และที่สำคัญ อย่าลืมเลือกใช้วัตถุดิบจาก ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ ที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความคุ้มค่าด้วย

กลับสู่ เคล็ดลับของคนเบเกอรี่

 

หน้าหลัก
เมนู
สั่งสินค้า
รถเข็น
เมนูอาหาร