Menu
คะแนน

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าร้านเบเกอรี่ แค่มีลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาก็ว่าปังแล้ว แต่ถ้าลูกค้าเหล่านี้กลายเป็นแฟนคลับหรือขาประจำ ก็จะยิ่งช่วยอัปกำไรเป็นเท่าตัว ข้อมูลนี้มาจากการสำรวจของ Harvard Business Review ซึ่งเป็นนิตยสารธุรกิจ ได้สรุปไว้ว่า ถ้าร้านมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นแค่ 5% จะช่วยสร้างกำไรได้มากขึ้นถึง 95% เลยทีเดียว วันนี้ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ จึงนำเทคนิคสร้างลูกค้าประจำมาฝาก รับรองว่าลูกค้าจะตกหลุมรักร้านของเราแบบข้ามปีไปเลย

ลูกค้าประจำสำคัญยังไง

ทำไมผู้ประกอบการเบเกอรี่จึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างลูกค้าประจำ ไปไขข้อสงสัยด้วยกัน

1. ลูกค้าประจำช่วยเพิ่มรายได้ในระยะยาว

เนื่องจากลูกค้าประจำมีโอกาสซื้อซ้ำบ่อยกว่า และใช้เวลาตัดสินใจน้อยลง ไม่ต้องเทียบราคา หรือชั่งใจมากนัก เพราะพอใจกับรสชาติหรือคุณภาพที่ได้รับอยู่แล้ว และเมื่อทางร้านมีเมนูพิเศษ เมนูออกใหม่ ลูกค้าประจำก็พร้อมจะอุดหนุน จึงทำให้ร้านมีรายได้ที่สม่ำเสมอ

2. ลูกค้าประจำมีโอกาสซื้อในปริมาณที่มากขึ้น

เนื่องจากลูกค้าประจำมีความรู้สึกประทับใจและเกิดความเชื่อมั่นในร้าน ปริมาณในการซื้อต่อครั้งจึงอาจเพิ่มมากขึ้น หรือหากต้องการสั่งซื้อเบเกอรี่จำนวนมาก ก็มักจะเลือกซื้อจากร้านประจำก่อนเป็นอันดับแรก

3. ลูกค้าประจำช่วยบอกต่อ

ลูกค้าประจำมักมีการรีวิว บอกต่อ หรือทำคอนเทนต์เกี่ยวกับร้านเบเกอรี่ที่ตนชื่นชอบ ซึ่งเป็นการโปรโมตร้านทางอ้อม และมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายได้

4. ลูกค้าประจำช่วยลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่

ข้อมูลจาก DMIT บริษัทให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ ระบุว่า การหาลูกค้าใหม่ ใช้ต้นทุนสูงกว่าการรักษาลูกค้าประจำถึง 7 เท่า ในขณะที่ลูกค้าประจำจะช่วยให้ร้านได้กำไรสูงขึ้นจากการซื้อซ้ำในครั้งต่อไป เพราะไม่ต้องใช้ต้นทุนในการโปรโมต ตัวอย่างเช่น พ่อค้าแม่ค้าขายเบเกอรี่ในราคา 100 บาท ต้นทุนวัตถุดิบ 30 บาท โปรโมตร้าน 20 บาท จะได้กำไร 50 บาท แต่ถ้าลูกค้าซื้อซ้ำในครั้งต่อไปจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น 70 บาท เป็นต้น

รู้ได้ยังไง ใครคือ “ขาจร” หรือ “ขาประจำ”

วิธีสังเกตลูกค้าประจำ แบบไหนถึงเรียกว่าลูกค้าประจำ ไปหาคำตอบด้วยกันเลย

1. จดจำและใส่ใจรายละเอียดภายนอกของลูกค้า

เจ้าของร้านเบเกอรี่ ควรสังเกต จดจำ และเอาใจใส่รายละเอียดภายนอกของลูกค้า เช่น ลูกค้าบางคนมาซื้อในเวลาเดิม ซื้อเมนูเดิม หรือแต่งตัวด้วยชุดยูนิฟอร์มของบริษัท เป็นต้น หากผู้ประกอบการจำรายละเอียดเหล่านี้ได้ มีแนวโน้มว่าลูกค้าจะเป็นขาประจำ

2. สังเกตจากพฤติกรรมของลูกค้า

เช่น ลูกค้ามองหา หรือถามหาเบเกอรี่ที่เคยซื้อ หรือหากลูกค้าเคยซื้อซ้ำหลายครั้ง อาจจะถามหาคนขายที่ตนคุ้นเคย เป็นต้น

3. เช็กจากระบบสมาชิกของร้าน

หากร้านมีระบบบัตรสะสมแต้ม หรือบัตรสมาชิก อาจมีการสอบถามเพิ่มเติม หากเป็นลูกค้าประจำ มักจะมีบัตรอยู่แล้ว

เทคนิคเปลี่ยนลูกค้าขาจร เป็นขาประจำ เพื่ออัปยอดขายเบเกอรี่

อยากเปลี่ยนคนรู้จัก ให้กลายเป็นคนรู้ใจ นำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้เลย

1. เทคนิครู้ใจใช่เลย

อันดับแรก ผู้ประกอบการเบเกอรี่ควรจะ ทำความเข้าใจลูกค้า ของร้านก่อน ว่าเป็นคนกลุ่มไหน ชื่นชอบอะไร เราจะได้นำไปปรับใช้เพื่อดึงดูดใจของลูกค้าได้ตรงจุด โดยจะแบ่งลูกค้าออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

● ลูกค้าที่ซื้อเพราะราคาถูก เน้นซื้อเบเกอรี่ที่คิดว่าคุ้มค่า ราคาไม่แพง ราคาถูกกว่าร้านอื่น ยิ่งราคาถูกหรือมีโปรโมชัน จะช่วยจูงใจได้มากขึ้น

● ลูกค้าที่ซื้อโดยไม่เน้นเรื่องราคา ตรงข้ามกับคนกลุ่มแรก ลูกค้ากลุ่มนี้เชื่อว่า ของแพงมาจากต้นทุนที่สูง คุณภาพดี การเสิร์ฟขายจึงเน้นครีเอตเมนูให้มีความน่าสนใจ พร้อมบรรจุภัณฑ์ที่ค่อนข้างหรูหรา เหมาะสมกับราคาที่ลูกค้าจ่าย

● ลูกค้าที่ซื้อตามกระแส กลุ่มนี้จะเน้นซื้อเบเกอรี่ตามเทศกาล เช่น คริสต์มาส ฮาโลวีน วาเลนไทน์ หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ อย่างวันเกิด วันครบรอบ เป็นต้น เพื่อให้ตัวเองมีส่วนร่วมไปกับกระแสหรือเทศกาลต่าง ๆ เบเกอรี่ที่ทำขายจึงควรเน้นดีไซน์ที่เข้ากับธีมหรือโอกาสพิเศษ

● ลูกค้าที่ซื้อเพราะถูกใจรสชาติ เป็นลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในร้านค่อนข้างสูง จึงสามารถนำเสนอเมนูใหม่ ๆ ได้

2. เทคนิคสะสมแต้ม แลกรางวัล

พ่อค้าแม่ค้าร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ก็สามารถใช้เทคนิคนี้ได้ เพราะต้นทุนไม่สูง โดยให้ลูกค้าร่วมสนุกกับภารกิจสะสมแต้ม หรือการเล่นเกมต่าง ๆ เพื่อลุ้นรับของรางวัล อาจเป็นบัตรสำหรับปั๊มแสตมป์ง่าย ๆ ซึ่งถ้าลูกค้าซื้อเบเกอรี่ถึงจำนวนที่กำหนด ก็จะได้แถมอีก 1 ชิ้น เป็นต้น

3. เทคนิคจู่โจมหัวใจลูกค้าด้วยความน่ารัก

คนเรามักแพ้ทางหรือชอบอะไรน่ารัก ๆ พ่อค้าแม่ค้าสามารถนำเทคนิคนี้มาใช้ได้ ด้วยการทำโลโก้ง่าย ๆ เป็นตัวการ์ตูน ติดไปกับบรรจุภัณฑ์ หรือวางให้ลูกค้าเห็นหน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าสนใจ และจดจำร้านได้ง่ายขึ้น รวมถึงการครีเอตเมนูที่มีความน่ารักสดใสด้วย สำหรับผู้ประกอบการเบเกอรี่ที่สนใจ สามารถออกแบบโลโก้ได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองจากเว็บไซต์นี้

4. เทคนิคการจัดโปรโมชัน

ลูกค้าบางคนถูกดึงดูดด้วยโปรโมชัน เพราะรู้สึกถึงความคุ้มค่า ทางร้านอาจจัดโปรโมชันลดราคา โปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อเป็นคู่ถูกกว่า เป็นต้น

5. เทคนิคกระตุ้นลูกค้า

เป็นการกระตุ้นลูกค้าด้วยการใช้คำต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกไม่อยากพลาดโอกาส ต้องรีบอุดหนุนเบเกอรี่ ณ ขณะนั้นเลย เช่น ชั่วโมงสุดท้าย ได้ราคาพิเศษสุด หรือ เบเกอรี่ขายดี 3 ชิ้นสุดท้าย หมดแล้วหมดเลย เป็นต้น รวมถึงกระตุ้นลูกค้าด้วยจุดเด่นของเบเกอรี่ เช่น เค้กมะม่วงน้ำดอกไม้ เมนูอร่อยรับหน้าร้อน ขายเฉพาะเดือนนี้เท่านั้น หมดแล้วเจอกันปีหน้าเลย อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เพราะลูกค้าจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอีก

เทคนิครักษาความสัมพันธ์ให้สดใหม่ ลูกค้าไม่เบื่อ 

ไม่อยากให้ลูกค้าประจำเปลี่ยนใจ ต้องรักษาความสัมพันธ์ไว้ไม่ให้หมดอายุ ด้วยเทคนิคเหล่านี้

1. ยืนหนึ่งเรื่องความโดดเด่น ไม่จำเจ

ด้วยการทำคอนเทนต์ที่แตกต่าง โปรโมตผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันนี้ การสร้างคอนเทนต์ด้วยมือถือ สามารถทำได้ง่าย ช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จัก มีกระแส ได้รับการพูดถึงอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พ่อค้าแม่ค้าร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น หนุ่มสาวกรุ๊ปเลือดนี้ กินเบเกอรี่แบบไหนปังสุด หรือ เมนูเบเกอรี่ที่เหมาะกับราศีต่าง ๆ เป็นต้น

2. ตกแต่งร้าน

ตกแต่งร้านให้มีความสดใหม่ อินไปกับเทรนด์และกระแสอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงปลายปี ที่คนมักจะให้ความสนใจกับเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ อาจมีการประดับไฟ หรือวางตุ๊กตาซานตาคลอสไว้ตามจุดต่าง ๆ เป็นต้น ในส่วนของเมนู อาจเพิ่มเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษที่เข้าธีมด้วย เช่น บราวนี่คริสต์มาส ทาร์ตขนมปังขิงหน้าพิซซ่าชีสเยิ้ม หรือ แซนวิชต้นคริสต์มาสไส้แซลมอนรมควัน

ผู้ประกอบการสามารถหยิบเอาเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับร้านของตัวเองได้เลย นอกจากจะได้ฐานลูกค้าประจำเพิ่มแล้ว ยังช่วยกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปีอีกด้วย และสำหรับผู้ประกอบการที่ได้ไอเดียน่าสนใจแล้ว กำลังมองหาเมนูเบเกอรี่ทำขาย เข้าไปจดสูตรได้เลยที่ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ แล้วอย่าลืมเลือกใช้ วัตถุดิบเบเกอรี่ คุณภาพดีมาช่วยอัปความอร่อยควบคู่กันไปด้วย รับรองลูกค้าเลิฟข้ามปี ขายดี มีแต่ปังแน่นอน

กลับสู่ เคล็ดลับของคนเบเกอรี่

หน้าหลัก
เมนู
สั่งสินค้า
รถเข็น
เมนูอาหาร